ไก่ชน
ไก่ชน มีประวัติเล่าขานกันมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ( 356 - 323 ปี ก่อนคริสตกาล ) ซึ่งเป็นจอมจักรพรรดิของกรีก ได้กรีธาทัพแผ่อิทธิพลขยายอาณาจักรเข้ามายังประเทศอินเดีย มีเรื่องเล่ากันว่าแม่ทัพนายกองได้เห็น การชนไก่ ที่อินเดีย จึงได้นำ ไก่ชน ไปขยายพันธุ์ ณ เมือง อเล็กซานเดรีย ซึ่งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลังจากนั้นได้นำไก่ที่ขยายพันธุ์ได้ไปฝึกให้มีชั้นเชิงการต่อสู้แบบโรมัน เพื่อนำไปต่อสู้ในสนามโคลีเซียม
The history of fighting cocks
The history of raising fowl for fighting goes back since King Alexander (356-323 B.C.) sent the army to India. The gamecock was found in India by some general of the King Alexander's army. The general bring Fighting cock back to Alexandria city. Fighting cock was breed and trained to fight as Roman style for fighting in Coliseum.
ไก่ชนในเมืองไทย
ในอดีต พันธุ์ ไก่ชน ไทยเป็น มรดกของไทย มาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งถึงกรุงรัตนโกสินทร์ มีหลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่ที่สำคัญที่สุดคือพันธุ์ ประดู่หางดำ และ เหลืองหางขาว ในสมัยกรุงสุโขทัย ไก่ชนประดู่หางดำพันธุ์แสมดำ ได้ชื่อว่า ไก่พ่อขุน เนื่องจากว่าเป็นไก่ที่พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงโปรด สมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงนำ ไก่เหลืองหางขาว จากบ้านกร่าง เมืองพิษณุโลก ไปชนชนะไก่ของพระมหาอุปราชาที่กรุงหงสาวดี ไก่พันธุ์นี้เป็นที่นิยมเลี้ยงกัน ตามซุ้มที่เลี้ยง ไก่ชน มักจะมี ไก่ชนเหลืองหางขาว เลี้ยงไว้เพื่อเป็นไก่นำโชค และนิยมเรียกชื่อว่า ไก่เจ้าเลี้ยง
Thai Fighting Cock
Thai fighting cock species are social heritage since Sukhothai Era, Ayutthaya Era until Rattanakosin Era (Recent). Thai fighting cock have many species that was separated characteristics by colour appearances. The important thing is "Pradoo Hang Dam"(Partridge black red with black tail) and "Luang Hang Khao" (Yellow with white tail).
"Pradoo Hang Dam"(Partridge black red with black tail) was breed by King Ramkhamhaeng of Sukhothai kingdom.
|
"Pradoo Hang Dam"(Partridge black red with black tail) |
"Luang Hang Khao" (Yellow with white tail) was breed by King Naresuan of Ayutthaya kingdom and has been won over King Bago's fighting cock.
|
"Luang Hang Khao" (Yellow with white tail) |
การ ต่อไก่ ชนไก่ และการ ฝึกไก่ มีปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ก็มีการละเล่น เพลงปรบไก่ และ การชนไก่ ในฤดูที่ว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรมเรื่อยมา จนกระทั่งมาถึง ยุคสมัยเชื่อผู้นำชาติพ้นภัย ( จอมพล ป. พิบูลสงคราม ) ที่ส่งเสริมการทำสวนครัวและเลี้ยงสัตว์ ได้นำ ไก่พันธุ์เล็กฮอร์น พันธุ์ออสตราลอฟ และพันธุ์โรดไอส์แลนด์เรด มาทำการผสมพันธุ์กับ ไก่ชน ที่ชาวบ้านเลี้ยงกันอยู่จนกระทั่งกลายเป็นไก่พันธุ์ทาง ทั้งยังประกาศให้เลิกเลี้ยง ไก่ชน อีกด้วย ไก่ชนเลือดแท้ในยุคสมัยนั้นจึงมีเหลือแอบเลี้ยงกันบางแห่งเท่านั้น ทำให้วงการไก่ชนของไทยซบเซาลงไป ครั้นถึงรัฐบาลนายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้มีการฟื้นฟู กีฬาไก่ชน ขึ้นมาอีกจนกระทั่งทุกวันนี้ ปัจจุบันการเลี้ยง ไก่ชน แยกออกได้หลายประเภท ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่างๆตามความนิยม เช่น เลี้ยงเพื่อการค้า โดยการขายเป็นพ่อพันธุ์ในราคาที่สูง หรือเพื่อการนำไปแข่งขัน และเลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมในฟาร์มขนาดใหญ่ เพื่อทำธุรกิจส่งออก เป็นต้น
Thai Fowl game has appear since Ayutthaya era until recent. Plank Phibunsongkhram (Former Prime minister of Thailand) has announced to not allow Thai people to breed Thai fighting cock when he was Prime minister of Thailand. However, some area has breed Thai fighting cock as a secret until Kuang Apaiwong (Former Prime Minister of Thailand) allow to breed Thai fighting cock and recovery the Thai game fowl. At a recent, a cockfight are famous sport well know as "Thai game fowl" and breeding for business
source :
https://www.gaichon.com
https://en.wikipedia.org/wiki/Cockfight#History
Photo source :
http://casino-th.org/wp-content/uploads/2016/05/ไก่ชน.jpg
http://pvlo-sri.dld.go.th/index.php/127-angkoumru-pasusut/kai/302-audom-kai